กระเบื้องยางประกอบไปด้วยกระเบื้องยางแบบ SPC และ LVT ที่นิยมนำมาใช้ปูพื้นภายในบ้าน แต่เคยสงสัยกันมั้ยว่าทำไมกระเบื้องยางสองชนิดนี้ถึงเรียกไม่เหมือนกัน นั่นก็เพราะกระเบื้องยางทั้งสองแบบต่างกัน แต่แตกต่างกันอย่างไรนั้น MAZ จะพาคุณไปหาคำตอบ
ชื่อเรียกของกระเบื้องยางแบบ SPC และ LVT ที่แตกต่างกันมาจากโครงสร้างและส่วนผสมของกระเบื้องยางที่ต่างกัน ดังนี้
- SPC (Stone Plastic Composite) จะมีส่วนผสมของผงแร่ใยหิน และ PVC
- LVT (Luxury Vinyl Tiles) จะมีส่วนผสมของไวนิล 100% (Pure PVC)
2. LVT ยืดหยุ่นมากกว่า SPC
LVT ยืดหยุ่นกว่า SPC เนื่องจากผงหินที่ถูกผสมเข้าไปในกระเบื้องยาง SPC จะไปช่วยลดการยืดหดของชั้นพลาสติกทำให้พื้นของ SPC มีความแข็ง หนา และไม่สามารถดัดหรืองอได้ ตรงกันข้ามกับกระเบื้อง LVT ที่เป็นยางไวนิลจึงมีความอ่อนตัวและยืดหยุ่นมากกว่า ผิวสัมผัสเมื่อเดินบนพื้นกระเบื้องยาง LVT จึงรู้สึกนุ่มสบายเท้า แต่กระเบื้องยางแบบ SPC ก็สามารถแก้ไขให้การเดินบนพื้นรู้สึกสบายเท้าขึ้นได้โดยการใช้แผ่นโฟมปูรองพื้นก่อนติดตั้ง
3. ระบบการติดตั้งแตกต่างกัน
ระบบการติดตั้งกระเบื้องยางแบบแผ่นมี 3 แบบ ได้แก่ แบบทากาว แบบกาวในตัว และแบบคลิกล็อค ซึ่งกระเบื้องยางแบบ SPC หรือ LVT มีระบบการติดตั้งที่แตกต่างกัน ดังนี้
- กระเบื้องยาง SPC มีระบบการติดตั้งแบบคลิกล็อคเท่านั้น หลายครั้งจึงถูกเข้าใจและเรียกว่า “กระเบื้องยางคลิกล็อค”
- กระเบื้องยางไวนิล LVT มีการผลิตและออกแบบให้มีการติดตั้งได้ทั้ง 3 แบบ คือ ทากาว กาวในตัว และคลิกล็อค ที่นิยมใช้และนิยมขายกันจะเป็นระบบทากาวและระบบกาวในตัวมากกว่า ส่วนระบบคลิกล็อคของกระเบื้องยาง LVT ก็มีเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ถ้าหากจะใช้ระบบคลิกล็อคมักจะเลือกกระเบื้องยางแบบ SPC
4. ความสามารถในการปูทับพื้นเดิมต่างกัน
การใช้กระเบื้องยางปูทับพื้นเดิมจะใช้ระบบการติดตั้งแบบไหนก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือพื้นต้องเรียบอยู่ในระดับเดียวกัน แต่สำหรับคนที่ไม่สะดวกปรับพื้นใหม่และติดขัดในเรื่องงบประมาณ จึงปูกระเบื้องยางทั้งอย่างนั้นโดยไม่มีการปรับพื้นให้เสมอกันก่อน ซึ่งก็สามารถทำได้แต่พื้นที่ปูออกมาจะไม่ได้มาตรฐาน เช่น หากพื้นเดิมเป็นพื้นกระเบื้องที่มีร่องยาแนว กระเบื้องยาง SPC คลิกล็อคจะเหมาะกับการปูทับพื้นประเภทนี้กว่ากระเบื้องยางแบบทากาวหรือกาวในตัว เพราะความแข็งแรงของกระเบื้องยางแบบ SPC จะไม่ทำให้ปรากฏร่องยาแนวเหมือนกับ LVT ที่จะอ่อนตัวแนบไปกับพื้น เมื่อติดตั้งเสร็จพื้นจะเป็นร่องคลื่นชัดเจน แต่กระเบื้องยางแบบ SPC ก็อาจเกิดการยวบตัวและมีเสียงที่เกิดจากช่องว่างของพื้นที่ไม่เรียบเสมอกัน
5. การทนทานต่อรอยขีดข่วนและแรงกดทับต่างกัน
กระเบื้องยางแบบไวนิล LVT จะทนทานต่อรอยขีดข่วนได้น้อยกว่ากระเบื้องยางแบบ SPC เพราะมีชั้นโครงสร้างบางกว่า และกระเบื้องยางแบบ SPC มีความแข็งไม่ค่อยยืดหยุ่นจึงทนทานแรงกดทับได้น้อยกว่า เมื่อโดนแรงกระแทกอย่างแรงโดยตรง หรือการกดทับจากวัตถุที่มีน้ำหนักมากบริเวณตัวคลิกล็อคอาจแตกหัก
6. อายุการใช้งานยาวนานต่างกัน
แม้กระเบื้องยางจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาด้วยว่าคุณมีการดูแลรักษาดีมากน้อยแค่ไหน เพราะกระเบื้องยางแต่ละชนิดก็มีขอบเขตการใช้งานต่างกัน เช่น กระเบื้องยาง LVT หากใช้ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิแปรปรวนก็จะทำให้พื้นกระเบื้องยางหดขยายตัว ส่วนกระเบื้องยาง SPC หากใช้ในงานพื้นที่มีการกดทับด้วยน้ำหนักที่มากจนเกินไปก็จะส่งผลต่อตัวคลิกล็อคอาจเสียหายได้ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นสาเหตุให้อายุการใช้งานของกระเบื้องยางสั้นลงยิ่งกว่าเดิม
7. กระเบื้อง SPC ราคาถูกกว่า LVT
กระเบื้องยางไวนิล LVT ทำมาจากไวนิลคุณภาพสูง 100% ไม่มีการผสมส่วนประกอบอื่นเหมือนอย่างกระเบื้องยาง SPC จึงทำให้มีราคาที่สูงกว่า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นอย่างเช่น ระบบการติดตั้งว่าเป็นแบบทากาว กาวในตัว หรือคลิกล็อก และขนาดความหนาของพื้นกระเบื้องยางที่ส่งผลให้มีราคาที่แตกต่างกัน
ถ้าให้เลือกว่ากระเบื้องยางแบบไหนดีกว่ากันคงไม่สามารถตอบได้ เพราะกระเบื้องยางแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน บางคนชอบที่ลวดลาย บางคนอาจชอบเพราะสวย หรือบางคนอาจชอบเพราะราคาถูก จะเห็นได้ว่าเทคนิคการเลือกกระเบื้องยางไม่ได้ตายตัว ซึ่งถ้าให้ MAZ แนะนำ คุณควรเลือกกระเบื้องยางจากสภาพพื้นเดิมของห้อง ลักษณะการใช้งาน หรือความผันผวนของอุณหภูมิห้อง เพราะสิ่งเหล่านี้ต่างก็ส่งผลต่อพื้นกระเบื้องยาง การเลือกที่เหมาะสมจะทำให้พื้นกระเบื้องยางของคุณสามารถใช้ได้อย่างยาวนานและไม่เสียเงินจำนวนมากโดยไม่จำเป็นไปกับการแก้ไขปัญหาพื้นกระเบื้องยางที่จะตามมาทีหลัง
ให้ MAZ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้บ้านของคุณน่าอยู่มากขึ้น เรามีวัสดุกระเบื้องยางคุณภาพสูงมากมายหลายแบบ หลายลายให้เลือกในราคาที่เหมาะสมที่จะช่วยตกแต่งและยกระดับบ้านของคุณให้ดูดีมีสไตล์
สนใจสั่งซื้อสินค้า กรุณากดลิงค์นี้ค่ะ www.mazthailand.com/lvt3mm