เปรียบเทียบ "ไม้เอ็นจิเนียร์" กับ "ไม้จริง"

“ไม้” เป็นวัสดุดั้งเดิมที่ใช้กันมาอย่างช้านาน มีการประยุกต์หลากหลายรูปแบบเพื่อการตกแต่งบ้าน ส่วน “ไม้เอ็นจิเนียร์” เกิดจากการนำเอาไม้ธรรมชาติมาพัฒนาคุณสมบัติให้เทียบเท่าหรือมากกว่า เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภค ซึ่งในระยะหลังไม้เอ็นจิเนียร์ได้ถูกพูดถึงในวงกว้างมากขึ้นและนำมาใช้งานแทนไม้จริง ดังนั้นใครที่กำลังมองหาวัสดุพื้นไม้ แต่ยังลังเลใจไม่รู้จะใช้พื้นไม้แบบใด MAZ ได้เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง “ไม้เอ็นจิเนียร์” กับ “ไม้จริง” เพื่อให้คุณนำไปพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกใช้งาน

 
"ไม้เอ็นจิเนียร์" กับ "ไม้จริง" ต่างกันอย่างไร?



1. องค์ประกอบ

• ไม้เอ็นจิเนียร์ : วัสดุจากไม้ธรรมชาติที่มีการปรับคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ให้สีไม้ มีความเป็นธรรมชาติในแบบ Nature Oak แกนกลางผลิตจากไม้ยูคาลิปตัสทั้งหมด วีเนียร์ปิดผิวด้วยไม้โอ๊ค คงความสวยงามของลวดลาย และตาไม้ธรรมชาติ
• ไม้จริง : วัสดุเป็นไม้ธรรมชาติชิ้นเดียวกันทั้งแผ่น ทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องของสีและลวดลายที่ไม่ซ้ำกัน ไม่เป็นแพทเทิร์น เนื่องจากเป็นการนำไม้ซุงมาแปรรูปเป็นแผ่นไม้ตามขนาดที่ต้องการ หรือนำไปผลิตเป็นพื้นไม้ปาร์เก้ ซึ่งเป็นไม้ชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีขนาดเล็กกว่าไม้แบบแผ่น

• ไม้เอ็นจิเนียร์ : ในกระบวนการผลิตไม้เอ็นจิเนียร์ จะมีขั้นตอนการอัดน้ำยากันปลวกเข้าไปด้วย ทำให้ไม้เอ็นจิเนียร์สามารถกันปลวกกินและแมลงต่างๆ เข้าไปอยู่อาศัย
• ไม้จริง : ธรรมชาติของไม้ที่มาจากธรรมชาติจะไม่สามารถกันปลวกและแมลงได้ จึงต้องฉีดเคลือบน้ำยากันปลวกเพื่อป้องกัน ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและผู้อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามน้ำยากันปลวกมีวันหมดอายุและประสิทธิภาพในการป้องกันจะลดลงเรื่อยๆ จึงควรหมั่นตรวจเช็คและอัดน้ำยากันปลวกให้ตรงรอบการฉีดตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ

 
3. การติดตั้ง

• ไม้เอ็นจิเนียร์ : ติดตั้งได้ 3 วิธี ได้แก่ 1. การติดตั้งแบบลอยตัว เป็นการติดตั้งโดยใช้ระบบการติดตั้งที่ติดมากับพื้นไม้ ซึ่งต้องมีการปูโฟมรองพื้นไม้ก่อนการติดตั้ง 2. การติดตั้งแบบยึดกาว ติดตั้งโดยการเทกาว PU หรือ กาวโพลียูริเทน (Polyurethane) ลงพื้น รวมไปถึงตรงหลังแผ่นไม้และร่องลิ้น จากนั้นจึงติดตั้งไม้ลงทีละแผ่น 3. การติดตั้งแบบ Subfloor ใช้ปืนลมยิงแม็กซ์หรือยิงตะปูยึดบริเวณร่องลิ้นของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์เข้ากับไม้อัดหรือแผ่นสมาร์ทบอร์ด
• ไม้จริง : สมัยก่อนจะติดตั้งพื้นไม้จริงกับโครงไม้ตง แต่ปัจจุบันสามารถติดตั้งได้หลายวิธี เช่นเดียวกันกับการติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแบบลอยตัว ยึดกาว หรือ Subfloor ปูได้ทั้งพื้นปูน พื้นกระเบื้อง พื้นไม้อัด และพื้นสมาร์ทบอร์ด 

• ไม้เอ็นจิเนียร์ : ไม้เอ็นจิเนียร์มีวิธีทำความสะอาดทั่วไป ตั้งแต่การปัดกวาดฝุ่นให้สะอาดหมดจด จากนั้นให้เช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ ระมัดระวังในการลากเฟอร์นิเจอร์บนพื้นโดยตรง ควรใส่รองเท้าสลิปเปอร์เพื่อทะนุถอมพื้น รวมไปถึงการติดผ้าม่านเพื่อป้องกันแสงแดด
• ไม้จริง : ไม้จริงมีขั้นตอนทำความสะอาดที่เหมือนกับไม้เอ็นจิเนียร์ แต่จะมีอีกขั้นตอนเพิ่มเข้ามา คือหลังจากกวาดและถูพื้นด้วยผ้าบิดหมาดๆ ต้องถูผ้าแห้งตาม เพราะพื้นไม้จริงไม่ทนทานต่อความชื้น ในส่วนของการบำรุงรักษาจะเพิ่มการลงแว็กซ์น้ำยาเคลือบเงาที่พื้นไม้ ทำให้พื้นบ้านดูสะอาดเงางามตลอดเวลา และช่วยพลางรอยขีดข่วนที่เกิดจากการเคลื่อนย้ายของที่มีน้ำหนัก ซึ่งแตกต่างจากไม้เอ็นจิเนียร์ที่ไม่ต้องมีการลงแว็กซ์ใดๆ ลงบนแผ่นไม้

5. ราคา

• ไม้เอ็นจิเนียร์ : แม้ไม้เอ็นจิเนียร์ทำมาจากไม้ธรรมชาติแท้ๆ แต่ด้วยกระบวนการผลิตที่ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้ลำต้นเดียวกัน หรือไม้ชนิดเดียวกัน ทำให้สามารถนำไม้ที่หาได้ง่ายและราคาย่อมเยามาใช้ด้วยกันได้ ส่งผลให้ไม้เอ็นจิเนียร์มีราคาที่ถูกกว่าไม้จริง
• ไม้จริง : ไม้เป็นวัสดุธรรมชาติที่หายากเป็นทุนเดิม เพราะถูกตัดไปใช้งานหลากหลายจนป่าไม้โตไม่ทันความต้องการที่นับวันยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่ามีการปลูกใหม่โดยเฉพาะสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ก็ต้องใช้เวลานานกว่าลำต้นจะมีขนาดที่พอเหมาะ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม้จริงมีราคาแพง